Technology Finance =Fintech เมกก้าเทรนใหม่

Finance + Technology อุตสาหกรรมการเงินของโลกกำลังจะเปลี่ยนไปจากเดิมเรียกได้ว่า Point of no return อะไรคือตัวแปลสำคัญ

Technology จากการกล่าวข้างต้นหลายคนคงจะเคยได้ยินคำ ๆ นึงที่พึ่งผุดออกมาในหน้าข่าวด้านธุรกิจต่าง ๆ เมือไม่นานมานี้คือ Fintech แล้วมันคืออะไรทำไมนักธุรกิจจึงเรียกมันว่าเมกก้าเทรนตัวใหม่ในทศวรรตนี้กัน ด้วยการแปลงความหมายอย่างตรงตัวก็จะพบว่า มันมาจากธุรกิจด้าน การเงิน Fintech ผนวกกับการนำเทคโนโลยี Technology เข้ามาใช้งานประกอบกัน ซึ่งหลายคนอาจจะเถียงว่ามันก็ไม่ได้เป็นสิ่งใหม่ใดๆเลยตัวอย่างก็มีให้เห็นหลากหลายเช่นโมบายแบ้งกิ้ง ตู้เอทีเอ็ม หรืออะไรก็ตามที่เกิดขึ้นมาหลายปีได้แล้ว แต่ fintech เกิดขึ้นมาเป็นมากกว่านั้น เพราะตัวของมันมีระบบการลงทุนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งเกิดขึ้นตามแรงผลักดันของพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น

บทความโดย aaneotech ธุรกิจการ streaming การเทรดหุ้น แอป digital payment gateway ต่าง ๆ ในการซื้อขายหุ้นที่เริ่มมีความนิยมในการใช้เทรดหุ้น แทนการซื้อขายในห้องค้าแบบเดิมมากขึ้น บริษัทอย่าง Stock Radar ที่พัฒนาโปรแกรมทางมือถือสำหรับเป็นเครื่องมือช่วยในการซื้อขายหุ้น ระบบ Payment API อย่าง Omise รวมไปถึงระบบ Crowd Funding ซึ่งเป็นวิธีการระดมทุนผ่านระบบ Online ซึ่งล่าสุดทางสำนักงาน กลต.ก็ได้ตรากฎหมายออกมารองรับแล้ว การระดมทุนออนไลน์ซึ่งคือการนำเสนอแผนธุรกิจเพื่อให้คนทั่วโลกให้ทุนมาสานต่อ อย่าง Kickstarter หรือ IndieGogo หรือของไทยก็มี Asiola , Dreamaker Equity และ Phoenixict เป็นต้นนอกจากนี้ก็ยังมีด้านอื่น ๆ อีกเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยสินเชื่อออนไลน์  การแลกเปลี่ยน BitCoin เรียกได้ว่าในยุคนี้มีผู้ที่ให้บริการทางการเงินเยอะไปมาก ดังที่ Jamie Dimon CEO ของบริษัท JPMorgan Chase ได้กล่าวไว้ว่า “Silicon Valley startups are coming to eat Wall Street’s lunch”

กระทั่งมาในยุคปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า

Smartphone, โครงข่ายอินเทอร์เน็ตที่แข็งแกร่งขึ้น, การบูมของ Social Media, Tech Startup ฯลฯ ทำให้เกิดเทคโนโลยีทางการเงินใหม่ๆ ขึ้นมามาก ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ก็เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคไปจากเดิมรวมถึงแผนพัฒนาเศรษฐกิจของทั่วโลกและในประเทศไทยที่พยายามจะเน้นใช้นโยบายประเทศไทยที่อยากผลักดันให้ไทยเราก้าวเข้าสู่ Digital Economy มากขึ้น ดังนั้น FinTech จึงมีบทบาทมากขึ้นทุกวัน และบริษัทหรือองค์กรใดไม่รีบปรับตัว อาจจะถูกทิ้งอยู่ข้างหลังอีกด้วย

การเข้ามาของFinTechส่งผลกระทบโดยตรงแน่นอน ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้บริโภคหรือผู้ให้บริการ เช่นเดียวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้านการเงินก็ทำให้พฤติกรรมการบริโภคของเราทุกคนเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่เคยทำธุรกรรมทางการเงินแต่กับแค่ธนาคาร ก็กลายเป็นเลือกใช้บริการจากเหล่านี้จากบริษัทที่ให้บริการFinTechรายย่อยมากขึ้น จากที่เคยต้องเดินทางไปธนาคารบ่อย ๆ ก็กลายเป็นจัดการทางการเงินผ่าน Application เรียกได้ว่าทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น จากความสะดวกสบายที่เกิดขึ้นเพราะเทคโนโลยีก็ทำให้พวกเราทุกคนจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น ซึ่งการบริโภคสินค้าและบริการก็ทำให้มีเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจขยายตัว มีช่องทางการค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่นขณะที่บริษัทด้านการเงินเจ้าเก่าๆไม่ว่าจะเป็นธนาคาร หรือบริษัทหลักทรัพย์ก็ต้องเร่งพัฒนาตัวเองเพื่อไม่ให้โดนเหล่าบริษัทใหม่ๆ เข้ามาแย่งพื้นที่ในสมรภูมิตลาดที่ระอุขึ้นทุกวันสุดท้ายแล้วคนที่ได้ประโยชน์ที่สุดก็เป็นผู้บริโภคอย่างพวกเราทุกคน เพราะการแข่งขันกันของ FinTechเจ้าต่างๆจะทำให้เรามีตัวเลือกที่หลากหลายขึ้นในราคาที่ถูกลงมาก

กล่าวไว้ได้ว่า Fintech ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่แต่อย่างใดแต่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นทุกวันจากการสร้างสรรนวัตกรรมใหม่ ๆ และน่าสนใจมาขึ้นเรื่อย ๆ เพราะผู้บริโภคหันมาสนใจและทางด้านผู้ให้บริการใช้ต้นทุนในการพัฒนาไม่มากเกินไปทำให้ใคร ๆ ก็ต่างให้ความสนใจโลกของเรากำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุค Digital Technology ในอนาคตอันใกล้เราก็ต้องเข้าสู่สังคมดิจิตอลในระดับโลกเพื่อทั้งความสะดวกในการที่เป็นที่ช่วยเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลโดยไม่ต้องอาศัยคนกลางอีกต่อไปเราจึงควรทำการศึกษาและหมั่นติดตามข่าวสารของเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่เพื่อที่จะได้ปรับตัวให้ทันกับยุคสมัยและสามารถเอาตัวรอดได้ในยุคที่ผู้คนต่างสนใจแต่ตัวเองกันมากขึ้นและเมินเฉยต่อส่วนรวมซึ่งก็คือสังคมจะเข้าสู่ยุคที่ต้องพึ่งตัวเองสูงมาก ๆ ในอนาคตอันใกล้นี้

ข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ aaneotech ข่าวสารใหม่ผ่าน Facebook : www.facebook.com/aaneotech